วันนี้ผมหาภาพที่เป็นรูปดาวหมุนๆๆๆๆๆ รอบๆ ขั้วฟ้า ก็ไปเจอเว็บนี้เข้า http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1482661
ซึ่งมีภาพนึงที่เป็นรูป
ดาวตกในวงรอบขั้วฟ้าเหนือ [โอภาส ชาญมงคล] ภาพจาก สดร. |
ทีนี้ก็มีความเห็นที่ 1 มาเขียนว่า
ดาวตก ! ไม่น่าเชื่อ เหมือนพลุที่วิ่งวนๆ กันเป็นวงกลมเลย !!พี่แกคงไปเห็นชื่อรูปว่า ดาวตกในวงรอบขั้วฟ้าเหนือ มั้ง?
พอเลื่อนลงมาดูเรื่อยๆ ก็มีผู้รู้มาเขียนว่า
(คห. 6) คห.1 คร๊าบ มันเป็นการเปิดหน้ากล้องทิ้งไว้นาน โดยหันกล้องไปทางดาวเหนือ ก็จะได้รูปดวงดาวต่างๆที่โคจรไปรอบๆตามการหมุนของโลกผมก็เข้าใจทั้ง 2 คนนะ ว่า คนแรก แกคงไปอ่านชื่อแล้วทึกทักเอา ส่วนอีกคน ก็มาพร้อมกับความรู้
ทีนี้เรามาอธิบายเรื่องนี้กัน
อันดับแรก เรารู้ว่า โลกหมุน ครับ โลกหมุน พอโลกหมุน ดาวก็โคจรไปรอบๆ ท้องฟ้า
ทีนี้เพื่อให้เป็นการง่ายต่อการอธิบาย เราจึงยึดหลักการว่า โลก อยู่นิ่ง ส่วน ท้องฟ้า โคจรรอบโลกก็แล้วกัน
อ๊ะๆ หลายคงคงคิดอยู่ในใจว่า ผิด ใช่ไหมล่ะคร้าบบบบบบ? :)
ไม่ครับอันนี้ไม่ผิด เพราะเป็นวิธีการมองแบบหนึ่ง คือ โลกเป็นศูนย์กลาง ส่วนอีกแบบคือ ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง
ทีนี้เรามาดูกัน
ท้องฟ้าหมุนรอบโลก ดาวก็โคจรเป็นวงกลมไปรอบๆ ฟ้า ตามแกน R.A. ของมัน
แล้วทุกท่านเคยถ่ายภาพใช่ไหมครับ?
เรารู้ว่าถ้าเปิดหน้ากล้องนานภาพก็ยิ่งสว่าง?
ใช่ ภาพสว่าง
ทีนี้เปิดหน้ากล้องนาน ก็คือใช้เวลาในการถ่ายภาพนานขึ้น
ในเวลาถ่ายภาพนานขึ้นโลกก็หมุน หมุนไปเรื่อยๆ
ท้องฟ้าก็หมุนไปเรื่อยๆ จากนั้นดาวที่จุดๆ หนึ่งก็เริ่มขยับตัวไปๆ
เหมือนกับเราขีดเส้น
หากเราจุดดินสอไปจุดหนึ่ง เป็นไงครับ?
มีแต่จุด .
พอเราลากไปเรื่อยๆ มัันก็จะเป็นเส้น
ก็นั่นแหละ จุดก็คือดาวที่เราไม่ได้เปิดหน้ากล้องนานนัก
ส่วนขีดก็คือเปิดหน้ากล้องนาน
เข้าใจยังครับ?
ดังนั้น การเปิดหน้ากล้องนานๆ ก็จะทำให้ภาพดาวปรากฏเป็นเส้นโค้งตามขั้วฟ้า
จึงสรุปได้ว่า
ความยาวของขีดของดาวที่เป็นเส้นอันเนื่องมาจากการเปิดหน้ากล้อง จะแปรผันตรงกับ เวลาที่เปิดหน้ากล้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น